วันพุธที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2562

สตรีมีครรภ์นวดต้องระวังตรงไหนไม่เสี่ยง "แท้ง"



เมื่อคุณแม่มีอายุครรภ์มากขึ้น จึงต้องแบกรับน้ำหนักที่เพิ่มขึ้น เกิดการขยายตัวของเชิงกราน ครรภ์ที่ขยายขึ้นดึงรั้งกล้ามเนื้อบริเวณหลัง รวมไปถึงลักษณะการเดินที่ต้องแอ่นตัวเพื่อถ่วงดุลน้ำหนักก็ทำให้กล้ามเนื้อส่วนต่างๆ ตึงเครียดอยู่ตลอดเวลาส่งผลให้เกิดอาการปวดเมื่อยตามตัว แขน ขา หลัง นั่นเองค่ะ 

ซึ่งแน่นอนว่าตัวช่วยที่สะดวกและสบายตัวสำหรับคุณแม่มากที่สุดก็คือ "การนวด" แต่การนวดในช่วงต้องครรภ์ต้องระมัดระวังมากเป็นพิเศษเพื่อป้องกันอุบัติเหตุทั้งกับคุณแม่และน้องในครรภ์

โดยมีข้อควรระมัดระวังตามนี้ค่ะ

1.ห้ามนวด ช่วงอายุครรภ์น้อยกว่า 12 สัปดาห์

ครรภ์ในช่วง 3-4 เดือนยังอ่อนแอ การนวดอาจส่งผลให้ความดันภายในร่างกายสูงขึ้น เลือดสูบฉีดแรงขึ้น กระตุ้นกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานให้บีบตัว นอกจากนี้ สถิติคลอดก่อนกำหนด มักอยู่ในช่วง 12 สัปดาห์แรกของการตั้งครรภ์ ควรหลีกเลี่ยงการนวดเพื่อความปลอดภัย

2.ห้ามกดจุดฝ่าเท้า

บริเวณฝ่าเท้ามีเส้นประสาทเชื่อมกับทุกส่วนของร่างกาย รวมถึงมดลูก การนวด "กดจุด" บริเวณฝ่าเท้านี้อาจส่งผลให้มดลูกบีบตัว มีโอกาสแท้งได้ โดยเฉพาะระยะตั้งครรภ์ช่วง 3 เดือนแรก หลังจากช่วง 3-4 สัปดาห์สามารถลงน้ำมันนวดคลึงฝ่าเท้าเพื่อผ่อนคลายได้

3.ห้ามนอนคว่ำกดช่วงหลังด้านล่าง

ในการนวดสตรีมีครรภ์จะให้นอนตะแคงในการนวดหลัง ยกเว้นในกรณีที่สถานบริการมีเตียงนวดสำหรับสตรีมีครรภ์โดยเฉพาะ ก็สามารถนวดได้ อย่างไรก็ตามให้ระวังการนวดกดบริเวณหลังด้านล่างหรือกระเบนเหน็บ หากกดหนักเกินไป จะส่งผลให้ถึงมดลูก อาจทำให้เกิดการบีบตัว

4.ห้ามดัด ดึงร่างกาย ถีบขาด้านใน

ช่วงตั้งครรภ์เป็นช่วงนี่ร่างกายอาจขาดแคลเซียม กระดูกหลังแอ่นและข้อหลวมกว่าปกติ ทำให้ข้อขยับง่ายขึ้น กระดูกเชิงคลายออกและหลวมเพื่อเตรียมรับการขยายออกของขนาดครรภ์ การดัดจึงเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุเกี่ยวกับข้อกระดูกต่างๆ ส่วนการถีบขาด้านในอาจกระทบกระเทือนต่อมดลูก หรือส่งผลให้มดลูกบีบตัว มีโอกาสแท้งหรือคลอดก่อนกำหนด


5. นวดกดจุดบริเวณบ่า

การนวดกดลงบนบ่าโดยตรงจะสะท้อนหรือแรงดันไปยังบริเวณ​ท้อง ไม่ว่าจะนอนนวดหรือนั่งนวด ให้หลีกเลี่ยงการกดลงบนบ่า โดยให้กดบริเวณหัวสะบักหรือกล้ามเนื้อด้านหน้าบริเวณบ่าแทนค่ะ การกดบ่าในทิศนี้จะวิ่งสะท้อนกลับไปยังสะบักไม่ลงที่ท้อง ซึ่งจะช่วยคลายบ่าได้ระดับหนึ่ง แต่ไม่ส่งผลกระทบต่อครรภ์​ค่ะ


การนวดที่ปลอดภัยที่สุดสำหรับสตรีมีครรภ์คือการนวดไทย หรือ น้ำมันเพื่อการผ่อนคลายเท่านั้น  ซึ่งการนวดสำหรับสตรีมีสามารถนวดได้จนถึงช่วงใกล้คลอด หลีกเลี่ยงการกดที่หนักในจุดที่ควรระวังดังที่ได้กล่าวไว้แล้ว ป้องกันการคลอดก่อนกำหนด

นอกจากนี้ ควรเลือกนวดกับสถานบริการ โรงเรียน สถาบัน หรือ โรงพยาบาล หรือหมอนวดที่มีความรู้ในเรื่องการนวดหญิงตั้งครรภ์เพื่อความปลอดภัยทั้งคุณแม่และเด็กในครรภ์นะคะ


บทความโดย :Sotogreen
Credit Photo : http://www.massagebook.com/massage-therapy/benefits/benefits-of-pregnancy-massage/
ติดต่อรับบริการนวดหรือขอรับคำปรึกษา​ได้ที่
FB Page : Mindful Massage for Deep Relaxation
Line ID: angelasotozen


วันอังคารที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2562

อาการนิ้วล็อคจัดการได้ง่ายๆ เมื่อเริ่มเป็น



ส่วนตัวเคยมีปัญหา​นิ้วล็อคเวลาตื่นเวลามาตอนเช้าเมื่อสมัยยังทำงานออฟฟิศอยู่ เพราะใช้แขน มือและนิ้วทำงานหนักอยู่กับหน้าคอมพิวเตอร์​.... โชคดีที่ไหวตัวได้ทันไม่ปล่อยให้อาการลุกลาม พยายามบริหารแขน แช่น้ำอุ่น และนวดแขน ก่อนที่จะเกิดเป็นพังผืดเกาะแน่นจนต้อง​ทำการผ่าตัด

สาเหตุการล็อคเกิดจากเอ็นปลอกหุ้มเอ็นตรงนิ้วอักเสบจนเกิดเป็นพังผืดเกาะตัวหนาขึ้น จนทำให้เอ็นและปลอกหุ้มเอ็นตรงนิ้วไม่สามารถยืดหรืองอได้ตามปกติ.... ซึ่งเป็นผลมาจากการใช้แขนทำงานจนเส้นแขนตึง หิ้วของหนัก อยู่กับมือถือ คอมพิวเตอร์​ กำมือหยิบจับด้ามของใช้​ต่างๆ เป็นกิจวัตร​เวลานานเป็นต้น


การดูแลรักษา​อย่างที่บอกไปข้างต้นค่ะ... ก่อนที่นิ้วจะล็อคจนไม่สามารถ​คืนรูปได้หลังจากตื่นนอน (เวลาตื่นนอนเส้นในร่างกาย​จนหดลง)​ ให้พยายามบริหารนิ้วมือ นวดเส้นแขนซึ่งจะช่วยคลายได้จนถึงปลายนิ้ว (การนวดแต่มือไม่ช่วยให้อาการดีขึ้นค่ะ)​ เมื่อนวดจนเส้นคลายนุ่มลงก็ให้บริหารเพิ่ม​หลังจากนั้นเพื่อชะลออาการเส้นตึงแข็งเกร็งที่จะกลับมาค่ะ (สามารถดูเทคนิคการบริหารนิ้วมือได้ตามคลิปต่างๆ จากในยูทูบนะคะ)​

สำหรับคนที่มีอาการนิ้วล็อคเรื้อรังมานาน หากนวดรักษาไม่ดีขึ้น บริหารไม่ช่วย อาจจะต้องผ่าตัดเลาะพังผืด​หรือรับการรักษา​ทางการแพทย์​แผนปัจจุบัน​ตามคำแนะนำ​ของ​คุณหมอค่ะ
ดู​แลร่างกาย​ก่อนร่างกายจะเสื่อมถอยจะดึง​กลับมาไม่ได้นะคะ 

บทความโดย : SotoGreen
Credit photo : www.britolhandsurgery.co.uk

ติดต่อรับบริการนวดหรือปรึกษา​ได้ที่
FB​ Page : mindful Massage for deep relaxation
ID Line : angelasotozen
#MindfulMassageForDeepRelaxation

วันเสาร์ที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2562

เรื่องควร​รู้.. ภัยเงียบของรองเท้าส้นสูง​



สำหรับสาวๆ เราจะมั่นมากขึ้นเมื่อมีเรียวขาที่สวยงาม... ซึ่งรองเท้าส้นสูง​คือคำตอบให้สมปรารถนา... แต่รู้หรือไม่ว่า.... เราต้องแลกเรียวขางามๆ นั้นมาด้วยอะไร

📌📌ปวดเมื่อเกร็งหลังเท้า หน้าขา -​--การใส่ส้นสูง​จะมีแรงกดที่บริเวณ​หลังเท้า ทใส่งผลให้เส้นเอ็นหน้าขาและหลัง​เท้าตึง กระดูกและกล้ามเนื้อ​รวมทั้งข้อต่อนิ้วเท้าต้องแบกรับน้ำหนักร่างกาย ทำให้เกิดอาการปวดเมื่อยล้า หน้าขาและหลังเท้าได้ค่ะ ถ้าลดระดับความสูง​ลงมาจาก 3 นิ้วเหลือสัก 2 นิ้วก็จะลดแรงกดน้อยลงมาประมาณ​ 22 เปอร์เซ็นต์​ค่ะ

📌📌ปวดเข่า--- เมื่อรองเท้าส้นสูง​น้ำหนักตัวจะทิ้งลงที่หัวเข่าตามแรงโน้มถ่วงของโลกในทันที และเข่าต้องคอยรักษาการทรงตัวจึงต้องเกร็งเข่า ทำให้ลูกสะบ้าขบกดกัน ตึงเส้นเอ็นเข่ารัดตึง กล้ามเนื้อเข่าด้านบนรับน้ำหนักมาก หากใส่รองเท้าส้นสูง​นานๆ ส่งผลให้มีอาการปวดข้อเข่า ข้อเข่าเสื่อมเร็วก่อนถึงวัยค่ะ

📌📌กล้ามเนื้อนิ้วเท้าอ่อนแรง -​-- รองเท้าส้นสูง​หัวเล็กแหลมจะบีบนิ้วเท้าเข้าหากันดูเรียวสวย แต่นั่นจะส่งผลให้กล้ามเนื้อนิ้วเท้าไม่ได้ขยับ เส้นนิ้วเท้าตึง ไม่มีการสร้างกล้ามเนื้อบริเวณ​นิ้วเท้าให้แข็งแรง ส่งผลให้มีปัญ​หาในการทรงตัวเมื่อถอดรองเท้า และที่สำคัญ​นิ้วเท้าเป็นจุดสะท้อนบริเวณ​ศีรษะ​ หากตึงมาก ๆ จะส่งผลให้ร่างกายรู้สึก​ไม่ผ่อนคลาย ตึงเครียด ปวดศีรษะ​ หน้าผาก โพรงจมูก​ หายใจไม่โล่ง ปวดตา ปวดเอ็นร้อยหวาย ปวดสะโพก รวมทั้งปวดบ่าไหล่และอาจมีปัญหาประจำเดือนได้อีกด้วยค่ะ

📌📌ปวดหลังช่วงล่าง -​ เมื่อใส่รองเท้าส้นสูง​ ร่างกายต้องสร้างสมดุลในการทรงตัว ช่วงขาจะเคลื่อนโน้มไปข้างหน้า ช่องหลังเราจึงต้องแอ่นไปทางด้านหลังเพื่อรักษาสมดุล เมื่อแอ่นหลังเป็นเวลานานก็ทำให้เราปวดหลังได้ค่ะ นอกจากนี้ การใส่รองเท้าส้นสูง​ส่งผลให้เส้นเอ็นร้อยหวายเกร็งตึง (สังเกตได้จากกล้ามเนื้อน่องที่เป็นลูกๆ) เส้นเอ็นร้อยหวายนี้ถ้าตึงมากก็จะตึงร้าวไปถึงหลังช่วงล่างได้ค่ะ


การดูแลรักษาเมื่อต้องใส่รองเท้าส้นสูง




ให้ใส่เมื่อยามจำเป็น แช่เท้าในน้ำอุ่นหลังจากการใส่รองเท้าส้นสูง คอยบริหารยืดเหยียดกระดกปลายเท้าเพื่อยืดเส้นเอ็นร้อยหวาย พอยต์​ปลายเท้าเพื่อยืดเส้นหน้าแข้ง หมุนข้อเท้า และขยับกระดิกนิ้วเท้าเพื่อคลายเส้นเอ็นหลังเท้าค่ะ ถ้ามีเวลาแนะนำให้นวดขาและนวดเท้า ซึ่งจะช่วยคลายกล้ามเนื้อและเส้นบริเวณสะโพกและหลังร่วมด้วยค่ะ

รองเท้าส้นสูง​นั้น ใส่แล้วสวยจริงแต่ก็แฝงภัยร้ายอ... ร่างกายของเราคอยรับใช้เป้าหมายและความฝันของเราในชีวิต อย่าลืมดูแลพวกเขากันนะคะ

บทความโดย : Sotogreen

Massage service contact:
FB Page : mindfulmassagefordeeprelaxation
  Line ID : angelasotozen

Reference: https://www.rd.com/health/wellness/high-heels-pain/

Photo credit​ :
https://graphs.net/troubles-with-high-heels.html
https://www.webmd.com/pain-management/ss/slideshow-worst-shoes-for-your-feet

วันอาทิตย์ที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2562

รู้หรือไม่.. กดหลังล่างคลายอาการแน่นเสียดท้อง



... กดหลังล่าง... ช่วยคลายอาการแน่นเสียดท้อง

... กดท้อง....ช่วยคลายอาการตึงเส้นหลังล่าง

ทั้งท้อง​และหลังมีความสัมพันธ์​ค่ะ อย่างเมื่อเราอิ่มมากๆ หน้าท้อง​ขยายใหญ่ หรือหญิง​ตั้งครรภ์​ จะมีการดึงรั้งกล้ามเนื้อหน้าท้องไปข้างหน้าจนตึงกล้ามเนื้อหลังนั่นเองค่ะ

🔎🔎ในช่องท้องจะมีกล้ามเนื้อที่เชื่อมต่อระหว่างต้นขาบริเวณขาหนีบด้านในกับหลังด้านล่างค่อนไปทางช่วงกลางหลังนิดๆ (Psoas Muscle)​ เป็นกล้ามเนื้อที่ช่วยในการยกขาขึ้นมา ถ้านั่งนานขาหนีบตึงก็จะทำให้ปวดตึงหลังช่วงล่างได้ค่ะ

การกดที่หลังด้านล่างนี้ตัวกล้ามเนื้อในท้องนี้ก็จะช่วยดันลมที่ติดอยู่ในท้องวิ่งหาช่องทวารหรือช่องว่างเพื่อขับออกค่ะ เมื่อกดจะรู้สึกลมวิ่งเสียดในท้อง หลังจากกด ถ้าลมไม่ออกให้เดินไปมาสักครู่​ หรือนั่งชักโครกขยายรูทวารให้ลมออกค่ะ หรือบางคนอาจเรอเป็นการขับลมค่ะ

ในทางกลับกัน การกดร่องเหนือขาหนีบ หรือรอบสะดือก็จะช่วยผลักลมในท้องไปยังข้างหลังช่วยคลายเส้นหลังที่พาดอยู่ภายในช่องท้องให้คลายลงได้ ลดอาการปวดหลังค่ะ

ในกรณีที่​จะกดเองให้นอนหงาย​ราบกับพื้นแล้วใช้นมสาวหรือลูกเทนนิส​สอดไว้ใต้หลังล่างใช้น้ำหนักตัวกดแช่นไว้จนรู้สึกว่าลมเสียดวิ่งในท้องเพื่อหาทางออกของของลมค่ะ

บทความโดย : Sotogreen
ติดต่อบริการนวด
FB Page : mindfulmassagefordeeprelaxation
Line ID : angelasotozen 
Credit Photo :https://www.sfsm.edu/wp-content/uploads/2017/08/shutterstock_42114979-e1501701484470.jpg