วันเสาร์ที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

อาการต้องห้าม! ดันทุรังนวดอาจอันตรายถึงชีวิต!




ปกติเวลาเราเข้าร้านนวดหรือสปาจะมีการสอบถามหรือบางที่ก็จะมีใบสอบถามอย่างเป็นทางการว่าเรามีอาการอะไรมา เจ็บปวดตรงไหน หรือ มีโรคประจำตัวอย่าง โรคหัวใจ ความดัน หรือ เบาหวาน หรือไม่ หมอนวดบางคนอาจถามลึกไปถึงประวัติการรักษาตัวจนเราในฐานะลูกค้า อาจจะรู้สึกรำคาญอยู่บ้างว่าจะถามทำไมนักหนา...แต่ทราบไหมคะว่า อาการต่าง ๆ ที่เราเป็นแล้วคิดว่าอาจไม่มีผลจากการนวด ความจริงแล้วอาจส่งผลเสียต่อร่างกายอย่างไม่ทันรู้ตัว 

     เพราะฉะนั้น  เราจึงจำเป็นต้องรู้ค่ะว่า ตัวเองมีอาการและประวัติการรักษาอะไรมา แล้วบอกหมอนวดอย่างตรงไปตรงมา เพื่อที่จะช่วยวินิจฉัยได้ว่า เราสามารถรับการรักษาด้วยการนวดได้หรือไม่ หรือ จะนวดอย่างไรเพื่อป้องกันอันตรายที่จะเกิดขึ้นกับผู้รับบริการค่ะ




การนวดทำงานอย่างไรกับระบบต่าง ๆ ในร่างกาย





หลายคนอาจจะเข้าใจว่า การนวดก็เป็นเพียงแค่การขยำ ๆ ลงไปบนกล้ามเนื้อเพื่อช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อที่เมื่อยล้า....แต่ในความจริงแล้ว การนวดเป็นการตรวจประเมิน การบำบัด การป้องกันโรค ด้วยวิธีการกด คลึง บีบ การดัด การดึง ซึ่งจะส่งผลทั้งต่อระบบกล้ามเนื้อ ช่วยคลายเส้น แต่ที่สำคัญส่งผลต่อระบบไหลเวียนของเลือด ซึ่งการกดลงไปตามจุดต่าง ๆ บนร่างกาย เป็นการปิดการไหลเวียนของเลือดไว้ชั่วคราวเหมือนปิดท่อก๊อกน้ำ เมื่อเราคลายแรงกดออกเลือดที่ถูกปิดทางไว้ก็จะสูบฉีดไปตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย การนวดจึงช่วยให้การไหลเวียนทั้งของเลือดและน้ำเหลืองดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดและรู้สึกได้จริง....แต่แน่นอนค่ะว่า ถ้าร่างกายของเราไม่ปกติ มีเชื้อไวรัส มีบาดแผล มีแอลกอฮอล์ในเลือดสูง ต่อมน้ำเหลืองมีปัญหาอยู่ มีการติดเชื้ออยู่ มีเซลล์ไม่ดีในร่างกายเกิดขึ้น หากได้รับการนวดก็จะยิ่งทำให้ปัญหาต่าง  ๆ ได้รับการกระตุ้นหรือแพร่กระจายไปอย่างรวดเร็วยิ่งขึ้นนั่นเอง



อาการต้องห้าม (ไม่ควรนวด)



     - มีไข้ คั่นเนื้อคั่นตัว ส่งผลให้เชื้อต่าง ๆ ในร่างกายแพร่กระจายมากขึ้น และไข้ขึ้นสูง

     - โรคมะเร็ง หลายคนบอกผู้ป่วยมะเร็งที่กำลังอยู่ในช่วงการรับการรักษาสามารถนวดได้บริเวณที่ไม่เป็นมะเร็ง แต่การนวดจะยิ่งให้เลือดและน้ำเหลืองไหวเวียนดีขึ้น หากมะเร็งเข้าสู่ระบบต่อมน้ำเหลืองแล้ว อาจจะยิ่งเป็นการแพร่กระจายเซลล์ร้ายไปยังส่วนต่าง ๆ ของร่างกายได้ค่ะ กันไว้ดีกว่านะคะ ส่วนคนที่หายดีแล้ว ก็สามารถนวดได้ค่ะ แต่ถ้าเคยได้รับการผ่าตัดภายในมาควรรอให้แผลปิดแห้งสนิทสมานถาวรอีกประมาณ 1-2 ปีค่อยนวดจะปลอดภัยกว่าค่ะ

     - เมาสุรา หากมีแอลกอฮอล์ในกระแสเลือด การนวดในขณะเขาหรือเพิ่งสร่างเมา  ความดันโลหิตก็จะยิ่งสูงขึ้น อาจจะทำให้หน้ามืด หมดสติได้

     - มีการอักเสบ บวม แดง ร้อน การนวดในบริเวณที่มีการอักเสบจะยิ่งทำให้เกิดอาการอักเสบมากขึ้นกว่าเดิม ควรรอให้กล้ามเนื้อหายอักเสบก่อนนะคะ แต่ถ้าบวมและเจ็บ แต่ไม่มีอาการแดง ร้อน ก็สามารถนวดได้แต่ต้องระมัดระวังมากเป็นพิเศษค่ะ

     - เพิ่งได้รับการผ่าตัดมา อาจทำให้เกิดการอักเสบ หรือ เกิดการติดเชื้อได้ค่ะ ควรรอให้แผลหาย แห้งสนิท หากเป็นแผลผ่าตัดภายในควรรออย่างน้อย  1 – 2 ปีถึงจะนวดได้ค่ะ 

     - กระดูกแตกหัก ข้อเคลื่อน  ไม่ควรนวดเพราะอาจทำให้อาการยิ่งแย่ลง แต่ถ้าให้นวดเฉพาะบริเวณก็สามารถทำได้ค่ะ

     - แผลเปิด ผุพอง ฝี หากมีแผลอยู่ภายในร่มผ้า หมอนวดไม่สามารถเห็นได้ ควรบอกนะคะ

     - โรคผิวหนัง โดยเฉพาะที่สามารถติดต่อไป หรือลามไปตามส่วนอื่นของร่างกายได้

     - มีอาการบาดเจ็บภายใน 48 ชั่วโมง หากการบาดเจ็บยังคงใหม่อยู่ ย่อมมีการอักเสบเกิดขึ้น การนวดจะยิ่งทำให้การบาดเจ็บทรุดลงมากขึ้น

     - โรคเกาท์ รูมาตอยด์ โรคทั้ง 2 นี้จะมีอาการปวดที่ข้อ การนวดบริเวณข้อจะยิ่งทำให้เกิดความร้อน การอักเสบ และปวดมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะเกาท์ การนวดจะยิ่งทำให้กรดยูริคที่อยู่รอบ ๆ ข้อ หรืออยู่ในเลือดกระจายไปตามข้อต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็วส่งผลให้ปวดมากขึ้นค่ะ



อาการที่ต้องระมัดระวัง (นวดได้แต่ต้องระวัง)



     - โรคหัวใจ สามารถนวดได้ แต่ต้องบอกหมอนวดเพื่อให้นวดหรือกดเบาลง และไม่เปิดประตูลม เพราะการเปิดประตูลมจะทำให้เลือดไม่ขึ้นกลับไปยังหัวใจเป็นเวลาประมาณ 20-30 วินาที

     - โรคความดันโลหิตสูง ป้องกันการนวดหนักบริเวณช่วงคอ บ่า ไหล่ หัว เพราะการนวดจะยิ่งส่งผลให้เกิดความดันในเลือดสูงขึ้น หมอนวดจะได้นวดเบาลง ไม่เช่นนั้น อาจเกิดเลือดฝอยในสมองแตกได้ค่ะ

    - โรคเบาหวาน ไม่ควรนวดหนัก เพราะหากเกิดรอยช้ำ จะทำให้หายช้าหรือเกิดการขยายของรอยช้ำเรื้อรังลุกลามได้

     - กระดูกสันหลังทับเส้นประสาท หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท นวดได้นะคะ แต่ต้องปรึกษาแพทย์ก่อนว่าสามารถนวดความความเจ็บปวดได้หรือไม่ หรือ แพทย์วินิจฉัยแล้วว่าเป็นเล็กน้อย ยังไม่ถึงขั้นผ่าตัด ซึ่งหมอนวดที่จะนวดให้ควรมีความเชียวชาญด้านการบำบัดและแกะอาการเท่านั้น ในการนวด ห้ามบิด ดัด ยืด ดึงทั้งนั้น แค่นวดกล้ามเนื้อเพื่อช่วยเบาเทาอาการปวดร้าวค่ะ

      - เส้นเลือดขอด สามารถนวดได้ แต่ไม่ให้กดแรงลงตรงบริเวณเส้นเลือดขอด เพราะมีโอกาสที่ลิ่มเลือดจะหลุดเข้าสู่กระแสเลือดและไปอุดตันอยู่ที่ขั้วหัวใจ ทำให้หัวใจขาดเลือดและเสียชีวิตได้ในเวลาอันรวดเร็วค่ะ

     - มีประจำเดือน สามารถนวดได้แต่ต้องระมัดระวังไม่กดจุดที่ฝ่าเท้า หรือ บริเวณท้อง ซึ่งการนวด และการเปิดประตูลมจะยิ่งทำให้เลือดสูบฉีดมากยิ่งขึ้น มดลูดเกิดการบีบตัว ดังนั้น ถ้าจะนวดควรนวดช่วงที่ประจำเดือนใกล้จะหมดในฤดูนั้น หรือ บอกให้หมอนวดนวดเบา ๆ ค่ะ

     - ตั้งครรภ์ สามารถนวดได้หลัง 3 เดือนขึ้นไป เวลานวดไม่ควรนอนคว่ำ หรือ นวดกดจุดโดยเฉพาะบริเวณฝ่าเท้า เพราะอาจทำให้แท้งได้ นอกจากนี้หลีกเลี่ยงการนวดท้อง เปิดปิดประตูลม หรือ ข้อพับต้นขา เพราะอาจส่งผลให้มดลูกบีบตัว หรือ ส่งผลต่อครรภ์คุณแม่ได้ค่ะ นวดผ่อนคลายหรือนวดน้ำมันปลอดภัยทั้งแม่และบุตรแน่นอน




     บทความนี้ไม่ได้มีจุดประสงค์ ห้ามไม่ให้นวด หรือ ให้เห็นอันตรายของการนวดนะคะ แต่เพื่อให้เราในฐานะผู้รับบริการใส่ใจอาการของตัวเราเอง และบอกข้อมูลของตัวเราแก่หมอนวด เพื่อให้หมอนวดได้วางแผนการรักษาอย่างถูกวิธีและไม่ส่งผลเสียต่อร่างกายเราค่ะ ทีนี้เราก็จะได้เตรียมความพร้อมก่อนไปนวด และไม่ต้องกังวลว่าจะเกิดอันตรายแก่ร่างกายของเรา จะได้นวดแล้วผ่อนคลาย ไร้กังวล  สบายทั้งกายและใจแล้วเลยล่ะค่ะ






บทความโดย : Soto Green
ติดต่อบริการนวดบำบัด
FB Page: mindfulmassagefordeeprelaxation
ID Line : angelasotozen 

ข้อมูลอ้างอิง :
วิชาพื้นฐานเกี่ยวกับการนวดไทย โรงเรียนนวดแผนโบราณเชตวัน
หนังสือประกอบการเรียนวิชานวดแผนไทย โดยศูนย์ฝึกอาชีพกรุงเทพมหานคร
http://www.eldercareinthai.com/




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น