วันเสาร์ที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

เมื่อหันมากินมังสวิรัติ...ชีวิตเปลี่ยนไปอย่างไรบ้าง



     ก่อนอื่นต้องบอกว่า จะก้าวมสู้การละ เว้นเนื้อสัตว์นั้นไม่ง่ายเลย ต้องความความอดทนต่อแรงกิเลสที่ยั่วยุเป็นอย่างมาก และต้องใช้เวลาอยู่หลายปีกว่าจะคงตัว ไม่กระหายอยากกินเนื้อสัตว์ แต่ก็อนุโลมให้ตัวเองกินปลาบ้างเล็กน้อยและยังกินไข่ได้อยู่ เพราะอยู่ในเมือง ไม่ได้ทำกับข้าวกินเองได้ทุกมื้อ อีกทั้งยังมีสังคมอยู่กับคนที่กินเนื้อสัตว์ ก็ยากที่จะเป็นมังสวิรัติหรือเป็นเจได้ 100 เปอร์เซ็นต์ 

     อย่างไรก็ตาม การได้ก้าวสู่การเป็นมังสวิรัติในปีที่ 4 ก็ทำให้ชีวิตดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด จะดีขึ้นอย่างไร ตัวเองเปลี่ยนสภาพร่างกายและจิตใจไปมากขนาดไหน .... วันนี้จะมาบอกเล่า พร้อมเผยโฉมหน้าที่แท้จริงให้เห็นกันค่ะ อับอายมาก เพราะทั้งหน้าในอดีตและปัจจุบันไม่ได้สะสวยอะไรเลย (ฮา) สู้สาว ๆ ที่ขายครีม ขายเครื่องสำอางไม่ได้ แต่มาถึงจุดนี้แล้ว พร้อมพลีชีพค่ะ ^^




เริ่มต้นการก้าวมาเป็นมังสวิรัติ






     จุดประสงค์แรกที่เลิกกินเลย ก็คงเป็นเรื่องไม่อยากกินสัตว์ใหญ่อย่างวัวค่ะ ก็เลิกมาได้ก่อนหน้า หมู ไก่ มาร่วม 10 กว่าปี พอเลิกเนื้อมาได้นานพอควรก็ค่อย ๆ ลด เนื้อหมู แต่เนื้อไก่ยังกินอยู่ชอบมาก ๆ สาเหตุที่ไม่กินเนื้อหมูก็สาเหตุเดียวกับเนื้อวัว แล้วตัวเองเป็นคนท้องผูกทรมานมากแล้วก็กลัวเป็นมะเร็งลำไส้ ส่วนนมวัวก็ไม่ชอบกินตั้งแต่เด็ก เพราะกินแล้วไม่ย่อยปวดท้องทรมาน กินได้ก็นมเปรี้ยว หรือโปรดักนมที่มีการย่อยด้วยจุลินทรีย์มาบ้างแล้ว ทุกวันนี้กินนมถั่วเหลืองแทนค่ะ

     พอปี 2553 ออกจากงานแล้วสนใจเรียนเรกิ สัมผัสบำบัด จำเป็นต้องลดละเนื้อสัตว์มากขึ้น ก็เลิกกินไก่ แต่ก็มีบ้างที่อดรนทนไม่ไหว ก็กินไม่อยากบีบบังคับตัวเองมากเพราะจะเครียด แต่ก็ละได้ทีละนิดจนไม่กินแล้ว อาจมีบ้างทีแบบอยากชิม เห็นน่ากิน ก็ลองกินค่ะ แต่กินแล้วไม่รู้สึกแย่มาก จินตนาการว่าจะอร่อยกับรสชาติจริง มันมากสวนทางกัน ปัจจุบันนี้ มีความตั้งใจที่จะกันมากินมังสวิรัติด้วยเรื่องสุขภาพกายใจและไม่สนับสนุนการฆ่าสัตว์ เพราะสัตว์ทุกตัวก็รักชีวิตของตัวเองเหมือนกับเรา




ก่อนกินมังสวิรัติ








- ท้องผูกทุกวัน ถ่าย 2 - 3 วันครั้ง บางทีไปแปลกที่ก็ 5 - 6 วัน กลิ่นไม่ดีอยากแรงงงงง

- มีกลิ่นตัวเหม็นมาก โรออนเอาไม่อยู่ มันเหมือนเหม็นมาจากข้างในตัว แฟนเพื่อนเคยบอกว่าดูเป็นคนไม่เคยอาบน้ำมาตลอด ตอนนั้นเจ็บช้ำใจมากค่ะ ไม่ขาวแล้วยังดูสกปรก เวลาคุยกับแม่ตอนเช้าแม่จะบอกว่าปากเหม็นมาก ไม่ได้เหม็นขี้ฟัน แต่เหม็นมาจากลมหายใจในร่างกายเรา

- มีสิวขึ้นตลอดเวลา เป็นสิวขึ้นใต้ผิวหนังไม่มีหัว เหมือนมีพวกเชื้อแบคทีเรีย จุลินทรีย์เยอะ แล้วยังเป็นคนชอบแกะสิวก็ยิ่งสกปรกไปใหญ่ หน้ามันเยิ้ม

- อ้วนง่าย เคยอืดขั้นสุดที่น้ำหนัก 50 กิโลกรัมจากปกติจะอยู่ที่ 43 - 45 กิโลกรัม ส่วนสูงก็เท่าเดิมตั้งแต่ประถม 6 ค่ะ คือ 152 เซนติเมตรโดยเฉลี่ย พออายุมากขึ้นก็ชักจะเผาผลาญน้อยลงอีกด้วย ประกอบกับเป็นคนหุ่นทรงตรงพออ้วนก็ไม่อวบมีหน้าอกสะโพก แต่กลับอืดบวมเหมือนอึ่งอ่าง หน้าอกดูเล็กลงเพราะพุงนำนม ปีกไหล่ก็กว้างขยายออก เห็นสภาพตัวเองแล้วไม่อยากอ้วนอีกเลย

- ผมมันมาก สระกลางคืน พอเช้ามาไม่ทันเข้าช่วงกลางวันหัวก็มันแผล็บ เคยมีคนที่แอบปิ๊งมาทักครั้งหนึ่งว่า "เธอ ๆ ไปสระผมมา ผมยังไม่แห้งหรอ" คือ ผมมันเหมือนผมเปียกน้ำตลอดเวลา อายมาก ต้องขอพี่ที่ทำอยู่แผนกเดียวกันไปสระผมร้านข้างล่างตึกทันที

- นอนไม่ค่อยหลับ หัวถึงหมอนนอนพลิกคิดโน่นนี่ เหมือนพลังงานร่างกายยังใช้ไม่หมด พอหลับก็ฝันไม่ค่อยดี หลับไม่สนิท ตื่นระหว่างกลางดึก

- เป็นคนคิดลบมาก กินเนื้อสัตว์ก็จะทำให้เกิดการเผาผลาญพลังงาน ร่างกายหนัก ไม่สบายตัว ก็พาลไม่สบายใจ หงุดหงิดง่าย คิดลบตลอด จนมีแต่คนเรียกว่า "ผู้หญิงที่อยู่แต่กับความทุกข์ 99.99 เปอร์เซ็นต์" นอยด์เก่ง เวลาโมโหจะควบคุมตัวเองไม่อยู่เหมือนผีบ้าเลยค่ะ พอโตมาอ่านงานวิจัยทั้งเชิงสุขภาพกายและสุขภาพจิต จึงพบว่า สัตว์ที่ถูกฆ่าตายจะหลั่งสารเคมีหรือฮอร์โมนที่ป็นพิษก่อนตัวเองตายเพราะความหวาดกลัว ส่วนทางจิตวิญญาณ พวกเขาต้องตายเพราะความหวาดกลัว โกรธแค้น เศร้าโศกหากมองเป็นเรื่องของรูปรอยอารมณ์ที่ส่งผลต่อสะสาร เคมี ฮอร์โมนในร่างกาย...ก็ไม่แน่นะคะ มันอาจจะส่งผลต่อเราด้วยก็ได้

- อันนี้ไม่รู้เกี่ยวไหม..ไม่เคยมีแฟนหรือคบใครเลยมากว่า 28 ปี ไม่ดึงดูด ไม่เป็นที่ชื่นชอบ ไม่มีใครสนใจอยากอยู่ใกล้ และตัวเราเองก็ไม่รู้สึกดีต่อตัวเองมาก ๆ  




หลังจากกินมังสวิรัติ







- ถ่ายทุกเช้า ถ่ายคล่อง ที่สำคัญค่อยมีกลิ่นด้วย

- สามารถควบคุมน้ำหนักได้ ไม่เคยเกิน 46 กิโลกรัม แม้มื้อเย็นจะกินโหดขนาดไหน แต่ส่วนใหญ่เป็นผักก็จะเผาผลาญเร็ว เมื่อปีที่แล้วเป็นลมพิษหนักมาก หมอให้งด ไข่ กล้วย ถั่ว เนื้อสัตว์ ขนมปัง ของหมักดอง ของปรุงรส กินได้แค่ผักกับข้าว ช่วงนั้นเป็นมังสริรัติแบบแท้มาก ๆ สลัดยังต้องกินกับน้ำมะนาว ภายใน 2 อาทิตย์ น้ำหนักลดไป 2 กิโลกรัม ลองคิดดูสิคะว่า ถ้าเราลดเนื้อสัตว์มาได้ เราก็จะควบคุมน้ำหนักเราได้ง่ายขึ้นด้วย

- กลิ่นตัวลดลงมาก กลิ่นปากจากลมหายใจไม่มีเลย (ถ้าฟันผุก็อีกเรื่องนะคะ อันนี้คนละส่วนกันนะคะ) เดี๋ยวนี้เวลาอยู่บนรถเมล์ รถตู้ ได้กลิ่นลมหายใจเท่า ๆ เหม็น ๆ บูด ๆ ของคนใกล้ ๆ นี่รู้เลยว่าอนาคตข้างหน้าอันตรายแน่ ๆ ค่ะ เพราะข้างในร่างกายเราส่งสัญญาณมาแล้วว่าจะเน่าแล้วน้าาา 

- หลับสบาย หลับง่าย ไม่ค่อยตื่นระหว่างกลางคืน

- แรงน้อยลง เพลียง่าย แต่ข้อดีคือ กินมื้อใหญ่ได้เลย กินระหว่างมื้อได้ไม่กังวล เพราะเดี๋ยวก็ใช้พลังงานไปหมดล่ะ เติม ๆ ได้อีกสบาย ๆ แต่ต้องระมัดระวังเรื่องกินแป้งและของหวานนะคะ

- หน้าไม่มันในลักษณะขับของเสียที่เป็นพิษ ไม่ค่อยมีสิวจากไขมันส่วนเกินหรือฮอร์โมนที่เกินมา

- ผมไม่มันเท่าเดิม มันเป็นปกติทั่วไปแต่ก็สระทุกวันนะคะ ยังฝังใจกับเรื่องที่หัวมันเหมือนผมเพิ่งสระใหม่ ๆ

- คิดบวกได้มากขึ้น ตัวเบาสบายขึ้น จิตใจแจ่มใส ควบคุมอารมณ์ตัวเองได้ดี มีเมตตามากขึ้น ใจเย็นลง และ รักตัวเองมากขึ้น ปัจจุบันนี้ก็ 31 ปีแล้วแต่รู้สึกสุขภาพดีกว่าเมื่อตอน 21 ปีเสียอีก ไม่ต้องชะโลมครีม แต่งหน้า ใช้อาหารนี่ล่ะค่ะช่วยกันดูแล การอยู่ร่วมกับธรรมชาติ พูดคุยกับเขาก็ช่วยได้อีกแรงค่ะ

- หลังจากกินมังสวิรัติจริงจังมาได้ไม่ถึงปีก็มีหนุ่มมาปิ๊ง คุยกันไปสักพักถึงรู้ว่าเขาเป็นมังสวิรัติมานานมากแล้ว...บางทีก็คิดหรือเราจะค่อย ๆ เดินทางมาเป็นมังสวิรัติเพื่อให้ได้ถึงเวลาที่พบกันเสียที เพราะเมื่อสุขภาพเราดีขึ้น ใจก็ดีขึ้นจากเดิมเยอะ โกรธได้แต่ก็หายเร็ว คิดลบน้อยลงมาก เข้าใจผู้อื่นได้ดีมากขึ้น มีเมตตา และที่สำคัญเรารักตัวเองเป็น




     การกินมังวิรัติมีแต่สิ่งดี ๆ เกินขึ้นในชีวิต ให้กลับไปกินเนื้อสัตว์อีกให้เงินมาล้านหนึ่งก็ไม่กินค่ะ แลกกันไม่ได้ แต่อย่างที่บอกนะคะว่ากว่าจะมาถึงจุดนี้ แม้เป็นจุดที่ยังเป็นมังสวิรัติแบบไม่สมบูรณ์ร้อยเปอร์เซ็นต์ ก็ยังต้องใช้ความพยายามในการต่อสู้กับกิเลสสูงมาก บางทีมองคนในครอบครัว มองเพื่อนนั่งกินไก่บอนชอน กินหมูปิ้ง ก็กัดฟันได้แต่มองตาปริบ ๆ เพราะฉะนั้นนะคะ ถ้าคิดจะหันมากินมังสวิรัติก็อย่ารีบไปหักดิบจะเครียดเสียเปล่า ๆ ค่อย ๆ ลองเริ่มลดละที่ละนิด จากเนื้อ ค่อยมาหมู ไก่ แล้วก็ปลาดูทีละนิด ถ้าอยากกินเนื้อสัตว์มาก ๆ ก็กินได้ค่ะแต่กินแค่พอให้รู้รสหายอยากเท่านั้น ซึ่งโดยปกติแล้ว ถ้าร่างกายเราไม่กินอะไรนาน ๆ พอกินเข้าไปอีกก็จะรับรู้รสชาติว่ามันอร่อยเท่าเดิมแล้ว เราก็จะไม่อยากกินไปเอง




     ....ส่วนเพื่อน ๆ คนไหน ที่กำลังเริ่มกินอาหารมังสวิรัติอยู่ก็ขอให้กินกันต่อไป สนุกกับการครีเอทเมนูเพื่อสุขภาพ เพื่อชีวิตที่เบาสบาย มีจิตเมตตาค่ะ สู้เขานะทาเคชิ!



บทความโดย : Soto Zen Green

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น