วันอังคารที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2562

ส้นเท้าตึง...คลายอย่างไรได้ผลระยะยาว



หลายคนมักเข้าใจว่าเมื่อปวดตึงส้นเท้า หรือหลังส้นเท้าก็จะกดคลายอาการอยู่ที่บริเวณนั้น แต่ในความเป็นจริงแล้ว อาการตึง​หลัง​ส้นเท้า​ หรื​อที่ส้นเท้าตึง​จนเจ็บบที่เกิดมาจากการยืน วิ่งเดิน หรือขับรถนานกว่าปกตินั้นเกิดมาจากการที่กล​้ามเนื้อ​และ​เส้นบร​ิเวณขาด้านหลังตึงเกิดการตึง (ในบางคนมีอาการปวดหลังร่วมด้วย)ซึ่งหากไม่ได้รับการคลายจะสะสมจนมีโอกาสได้รับบาดเจ็บเรื้อรังหรือเกิดการฉีกขาดได้




ในส่วนของเส้นที่จะคลายนั้นคือเอ็นที่เชื่อมมาจากตัวกล้ามเนื้อขาด้านหลัง (Achilles Tendon) เอ็นบริเวณส้นเท้านี้ค่อนข้างมีความแข็งแรง ใหญ่หนาและเหนียวซึ่งทอดยาวลงมาต่อจากกล้ามเนื้อน่องมัดใหญ่ที่อยู่บริเวณขาด้านหลัง (Gastrocnemius Muscle) อันเป็นเอ็นและกล้ามเนื้อที่ช่วยในการกระดกข้อเท้า .....ด้วยเหนตุนี้เอง การกดเพื่อคลายเส้นที่มีขนาดใหญ่และแข็งแรงให้คลายจึงต้องใช้แรงกดที่มาก...ในการนวดบางคนใช้เข่า บางคนเหยียบ....แต่สิ่งที่หลายคนลืมไปคือ การคลายตัวกล้ามเนื้อบริเวณน่องขาด้านหนังไล่ขึ้นไปจนถึงกล้ามเนื้อด้านหลังของขาท่อนบน (Hamstring Muscle) ให้คลายร่วมด้วย ไม่เช่นนั้นหลังจากที่ตัวส้นเท้าคลายอาจมีโอกาสสะท้อนปวดบริเวณเข่าและขาด้านหลังได้ หากบริเวณนั้นยังตึงอยู่ แล้วทำให้อาการตึงเจ็บปวดบริเวณส้นเท้ากลับมาอีกในเวลาไม่นาน

วิธีการคลาย

ให้เริ่มจากการคลายเส้นขาตามปกติก่อน จากนั้นจึงเน้นคลายกล้มเนื้อและเส้นบริเวณขาด้านหลัง เมื่อคลายจนนิ่ม ก็ให้กดเน้นบริเวณ Achilles Tendon กดให้รู้สึกวิ่งไปบริเวณหลังส้นเท้า ส้นเท้า และขอบเท้าด้านใน ให้ผู้ถูกนวดเช็กอาการว่าดีขึ้นไหมจากการกระดกปลายเท่าขึ้นลง หากยังตึงอยู่ก็ให้ย้ำและไล่เส้นเอ็นร้อยหวายใหม่ทั้งขาอีกรอบ จนรู้สึกว่ากล้ามเนื้อร้อนให้พอ แม้จะยังไม่หายร้อยเปอร์เซ็นต์ก็ให้พอเพื่อป้องกันการบาดเจ็บของเส้นและกล้ามเนื้อไม่ให้อักเสบหรือฉีกขาด


ข้อควรระวัง


หากก่อนนวดบริเวณส้นเท้าหรือเส้นหลังเท้ามีอาการบาดเจ็บมา บวม แดง ร้อน ห้ามนวดเด็ดขาด เพราะเส้นอาจจะฉักขาดอยู่ เกิดอาการบาดเจ็บ ควรไปพบแพทย์เพื่อเช็กอาการก่อนนวดค่ะ  ให้นวดเมื่อไม่มีการอักเสบที่เส้น นอกจากนี้ ไม่ควรขยี้เส้นเพราะอาจจะทำให้เกิดการอักเสบหรือฉีกขาดได้ค่ะ สำหรับหมอนวดควรสังเกตอาการผู้รับการนวด แล้วลักษณะของเส้น ไม่แนะนำให้อัดหนักเต็มที่ ในบางคนที่เส้นขอบเท้าด้านยังตึงก็ทำให้เกิดตะคริวได้ค่ะ

นอกจากการนวดเพื่อจัดการกับปัญหาปวดตึงส้นเท้าแล้ว การเลือกรองเท้าก็จำเป็นค่ะ ถ้าต้องยืนหรือเดินหรือวิ่งนานๆ  ควรเลือกรองเท้าที่ดีต่อสุขภาพเท้า มี support ช่วยพยังเท้าอย่างดี เหลีกเลี่ยงรองเท้าส้นแบนเกินไป หรือส้นสูง หรือหัวรองเท้าบีบนิ้วมากไปค่ะ เพราะจะยิ่งทำให้ส้นเท้าเท้ารับน้ำหนักและแรงกระแทกค่อนข้างมาก ที่สำคัญคอบบริหาร ยืดเหยียดเท้าเป็นประจำก่อนนอนก็จะช่วยได้อีกแรงค่ะ 




บทความโดย​ : SotoGreen
ติดต่อบริการหรือสอบถามได้ที่
Line​ ID: angelasotozen
FB Page : Mindful Massage for Deep Relaxation

Credit​ Photo : https://www.verywellhealth.com/achilles-tendonitis-causes-and-treatment-3119332

วันอาทิตย์ที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2562

เรกิ​ พลัง​ธรรมชาติ​บำบัด​ คืออะไร



Reiki Healing session for engergy balance and self - development

Reiki (เรกิ) พลัง​ธรรมชาติ​บำบัด คืออะไร

เรกิเป็นศาสตร์​การเยียวยารักษาทั้งทางร่างกายและจิตวิญญาณ​ค้นพบโดย ดร. มิคาโอะ อูซูอิ เรกิไม่ใช่ลัทธิความเชื่อศาสนา​นะคะ แต่เป็นพลังปราณหรือพลังชีวิตที่รับผ่านจากพลังธรรมชาติ​ พลังความรักและเมตตา​ เป็น​พลัง​ง​านที่เป็น​กลาง​ (Neutral​ Energy​)​ เพื่อช่วยสร้างสมดุลให้แก่ร่างกายเช่นเดียวกับ ไทชิ จี้กง พลังหัตถบำบัดของทิเบต พูดง่ายๆ เหมือนกับการทำสมาธิภาวนา​โดยผ่านมือของอีกคนที่ให้เรกินั่นเองค่ะ

โดยในขณะที่อยู่ในกระบวนการ ผู้​รับเรกิสามารถพูดคุย แบ่งปันความรู้​สึกหรือจะนอนหลับก็ได้ค่ะ ในบางคนสามารถเข้าถึงสภาวะอารมณ์​ ความคิด ความรู้สึก​ความเจ็บปวดที่ฝังเก็บงำอยู่ภายในจากการสั่นสะเทือน​ของพลังงาน​ตามจักระต่างๆ ในร่างกาย จากการรับรู้​นี้จะสามารถ​เป็นกุญแจ​เปิดหัวใจให้กว้างขึ้น รักและเมตตาต่อตนเอง เข้าใจตัวเองมากขึ้น มีความสุขในชีวิตอย่าง​ง่ายงาม

เรกิได้รับการยอมรับในโรงพยาบาลทั่วโลก ทั้งในสหรัฐ​อเมริกา แคนาดา เบลเยี่ยม และสหราชอาณาจักร​ เพื่อใช้ในการเยียวยาอาการเจ็บปวด ความเครียด ความวิตกกังวล​ของผู้ป่วยโดยเฉพาะ​ผู้​ป่วยมะเร็ง

ประโยชน์​ของเรกิ

-เยียวยาจิตใจ​ อารมณ์​ที่ส่งผลต่อปัญหาสุขภาพ​
แปรเปลี่ยน​แบบแผนชีวิตที่ปิดกั้นหรือเป็นเชิงลบให้กลายเป็น​เชิงบวก พลังงานมีการไหวเวียนไม่ปิดกั้น

-เยียวยาความวิตกกังวล​ ความเครียด ซึมเศร้า​เสริมสร้างการเคารพนับถือ​และรักตัวเอง รู้จักและยอมรับด้านลบของตัวเอง

-บรรเทาความขุ่นเคือง​ทางอารมณ์​ความรู้สึกช่วยให้อารมณ์​ ร่างกาย​จิตใจเกิดความสมดุล

-กล้าที่จะลงมือทำตามความฝันหรือความปรารถนา​ของ​ตัวเองโดยไม่ขัดแย้งหวาดกลัว

- ช่วยในเรื่องการย่อยและขับถ่ายให้ดีขึ้น ช่วยขับพิษ​ทั้งของอารมณ์​และของร่างกาย​

-เยียวยาโรคมะเร็งจากการสร้างสมดุลให้แก่พลังชีวิต (ควรควบคู่​กับการรักษา​ตามแผนปัจจุบัน​)​

เรกิเป็น​หนึ่ง​ในการรักษา​เยียวยาตัวเอง​ที่ทุกคนเข้าถึง​ได้​ อยู่แล้ว​ในตัวเอง​ แค่เปิดใจค้นพบ​ เรกิเป็นพลัง​ง​านที่เ​ป็นมิตร​ ไม่มีผล​ข้างเคียง​ที่รุนแรง​ อาจมีอาการหิวน้ำหรือขับผิดบ้าง​ แต่โดยรวมจะ​ช่​วยให้เรามอง​เห็นปัญหา​ที่เก็บภายในจิตใจ​ ทำความรู้​จัก​ร่างกาย​ของ​ตัวเอง​ เพื่ออ่อนโยน​ต่อตัว​เอง​ และบ่มเพาะ​รักตนเอง​และ​ผู้อื่น​อย่าง​ไร้เง​ื่อนไข​ หากเราทำได้สุขภายใจที่ดีก็​จะตามมาค่ะ​

สนใจติดต่อาอบถ​ามบริการได้ทาง
Inbox FB Page :  Mindful Massage for Deep Relaxation
Line ID : angelasotozen​

วันพุธที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2562

เทคนิคง่ายๆ กดจุด"เหอกู่" อย่างไร​ขับถ่ายคล่อง




จุดเหอกู่ ช่วยปรับสมดุลของระบบการทำงานของลำไส้ใหญ่​ให้ทำงานสมดุลขึ้น ตำแหน่งจะอยู่บริเวณง่ามนิ้วโป้งและนิ้วชี้ทั้งสองข้าง อยู่ตรงจุดสูงสุด​ของกล้ามเนื้อที่นูนขึ้นมาระหว่างนิ้วทั้ง 2 ข้าง สามารถกดได้ทั้งฝั่งซ้ายขวาค่ะ แต่หากรวมกับแผนไทยแนะนำข้างซ้ายซึ่งเป็นข้างเดียวกับลำไส้ใหญ่​ส่วนตรงค่ะ

วิธีการ​กด

จากการทดลองจากประสบการณ์​ในการกดจุดนี้ ถ้ากดค้างไว้ 10-30 วินาทีค้างไว้ รวมเวลา 3-5 นาทีก็ช่วยปรับสมดุลระบบลำไส้และรู้สึกถึงลำไส้ที่กำลังเคลื่อนตัวได้ค่ะ แต่ก็ไม่ถึงกระตุ้นให้ลำไส้บีบตัวจนอยากวิ่งเข้าห้องน้ำในทันทีนะคะ อย่างที่บางคนคิดกัน

อย่างไรก็ตาม​ การกดจุดนี้จะเห็นผลได้ดีในขณะที่กำลังขับถ่ายค่ะ โดยเฉพาะ​คนที่มักท้องผูกแนะนำให้ทำระหว่างขับถ่าย หรือเริ่มปวดท้องตุ่ยๆ ให้กดจุด "เหอกู่" ระหว่างเริ่มทำกิจธุระนะคะ จะช่วยบีบลำไส้ให้ขับถ่ายเคลื่อน​ตัวได้อีกแรง ป้องกันการเกิดริดสีดวงทวารได้ค่ะ.... หรือจะลองงกดจุดนี้ก่อนเข้านอนก็ได้นะคะ ตื่นเช้ามาจะช่วยให้เข้าห้องน้ำได้ดีขึ้น

Caution!! สตรีมีครรภ์​ห้ามกดจุดนี้เด็ดขาดค่ะ เพราะเป็นการกระตุ้น​ครรภ์​อาจแท้งหรือคลอดก่อนกำหนด​ได้ค่ะ

นอกจากนี้ ประ​โยชน์​ของการกดจุดเหอกู่ยังมี.... ช่วยคลายกล้ามเนื้อป้องกันนิ้วล็อค  ช่วยบรรเทาอาการปวดหัว ปวดฟัน ประจำเดือน​มาไม่เป็นปกติ ไม่สบายตัวได้อีกด้วยค่ะ

เห็นข้อดีมากมายแถมทำง่ายขนาดนี้ ลองทำดูนะคะ ทำได้ทุกวันค่ะ ได้ผลอย่างไร กลับมาแบ่งปัน​กันด้วยนะคะ ^^

บทความโดย : Sotogreen​
ติดต่อเพื่อปรึกษา​การนวดได้ที่
FB Page :  Mindful massage for deep relaxation